เลนส์สัมผัส หมายถึง เลนส์ที่ใส่แล้วสัมผัสโดยตรงกับส่วนหน้าของลูกตา เลนส์สัมผัสที่ใช้อยู่
ในปัจจุบันจะเป็นชนิดที่ใส่ปิดครอบคลุมเฉพาะบริเวณกระจกตา
ชนิดของเลนส์สัมผัส
แบ่งตามวัสดุที่ใช้เป็น 2 ชนิด
1.1 เลนส์สัมผัสชนิดแข็ง (hard or rigid lenses) เป็นเลนส์ที่คงรูปร่างในสภาพปกติได้ ทำจาก
พลาสติกชนิดเมททิลเมททราครัยเลท (PMMA)
1.2 เลนส์สัมผัสชนิดอ่อน (soft lenses) เป็นเลนส์ที่ไม่สามารถคงรูปร่างในสภาพปกติได้ เนื่องจาก
ทำด้วยสารไฮโดรเยล (hydrogel) ซึ่งเป็นสารที่มีลักษณะเป็นเยล (gel) และมีน้ำอยู่ อาจผลิตได้โดย
การใช้ของเหลวใส่ลงในแบบพิมพ์ที่หมุนด้วยอัตราความเร็วและอุณหภูมิตามที่กำหนด เพื่อให้ได้เลนส์
ที่มีแบบความโค้ง และกำลังขยายที่ต้องการหรืออาจผลิตโดยใช้เครื่องจักรในการขัดหรือปรับรูปร่างให้ได้
ตามที่ต้องการเลนส์สัมผัสชนิดอ่อนส่วนใหญ่จะทำด้วยสารไฮดร๊อกซีเมททิลเมททราครัยเลท (HEMA)
เป็นพื้นฐาน และผสมด้วยสารโพลีเมอร์ตัวอื่น นอกจากนี้ยังอาจทำจากสารอื่นที่ไม่ใช่ HEMA ได้ เช่น
กลีเซอรอล เมททิลเมท-ทาครัยเลท (glycerol methylmethacrylate)
แบ่งตามวัตถุประสงค์ในการใช้เป็น 7 ชนิด
2.1 ชนิดใช้ใส่ได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ต้องถอดออกเวลาหลับ เรียกว่า daily wear lenses
2.2 ชนิดใส่ได้เป็นเวลาติดต่อกันนานเกินกว่า 24 ชั่วโมง เรียกว่า extended wear หรือ
prolonged-wear lenses
2.3 ชนิดที่ผสมสี ใส่เพื่อความสวยงามไม่ใช่เพื่อแก้ไขความบกพร่องทางสายตา เรียกว่า
cosmetic lenses
2.4 ชนิดที่ใช้ปิดคลุมกระจกตา (corneal) เพื่อป้องกันกระจกตาจากภายนอกและช่วยให้แผลที่กระจกตา
หายเร็วขึ้น เรียกว่า bandage lenses
2.5 ชนิดที่ใส่เพื่อแก้ไขอาการสายตาเอียง เรียกว่า toric lenses
2.6 ชนิดที่ใส่ได้เป็นเวลานานแบบ extended wear แต่ใช้ใส่ได้ครั้งเดียว ไม่สามารถนำกลับมาใช้อีก
เรียกว่า disposable lenses
2.7 ชนิดที่ใช้ในรายที่มีอาการสายตาสั้นและสายตายาวอยู่ด้วยกันซึ่งจะมีจุดโฟกัสต่างกันในแต่ละส่วนของ
การมอง (optical zone ) เรียกว่า bifocal หรือ multifocal lenses
คุณสมบัติของเลนส์สัมผัส
การมีคุณสมบัติตามที่แพทย์สั่ง เลนส์สัมผัสต้องมีรูปร่างลักษณะภายนอก กำลังการหักเห เส้นผ่านศูนย์กลาง
รัศมีความโค้ง ความหนา เป็นไปตามที่แพทย์สั่งโดยมีความคลาดเคลื่อนได้ไม่เกินตามที่กำหนด
การมีคุณสมบัติตามที่แพทย์สั่ง เลนส์สัมผัสต้องมีรูปร่างลักษณะภายนอก กำลังการหักเห เส้นผ่านศูนย์กลาง
รัศมีความโค้ง ความหนา เป็นไปตามที่แพทย์สั่งโดยมีความคลาดเคลื่อนได้ไม่เกินตามที่กำหนด
คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้
2.1 วัสดุของเลนส์สัมผัสชนิดแข็งต้องไม่มีฟองอากาศ สิ่งแปลกปลอม รอยร้าวอยู่ภายใน
หรือการเปลี่ยนสี และต้องมีเสถียรภาพทางเคมีและฟิสิกส์
2.2 หากเป็นวัสดุที่มีสี สีที่ใช้ต้องเป็นสีไม่ทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ (inert pigment) และการกระจาย
ของสีต้องมีความสม่ำเสมอทั่วเนื้อเลนส์
2.3 กำลังหักเหของวัสดุที่ใช้ ต้องมีความสม่ำเสมอทั่วเนื้อของเลนส์ และคงตัวในอากาศ คุณสมบัติของ
เลนส์สัมผัสสำเร็จรูป
3.1 ปราศจากรอยตำหนิ เช่น จุด รอยขีดข่วน รอยที่เกิดจากการขัด หรือ อื่น ๆ เมื่อขยายด้วยเครื่อง
ที่มีกำลัง 10 เท่า
3.2 ผิวเลนส์ด้านที่ติดกับตา ต้องมีความสม่ำเสมอ เมื่อวัดระยะจากศูนย์กลางไปยังขอบของบริเวณที่มี
กำลังหักเหในจุดต่าง ๆ กัน ต้องมีความคลาดเคลื่อนหรือต่างกันได้ไม่เกินที่กำหนด
ค่าที่กำหนดต่าง ๆ ที่เป็นตัวบ่งชี้ให้ทราบถึงคุณสมบัติของเลนส์สัมผัส ประกอบด้วยรัศมีความโค้ง
เส้นผ่านศูนย์กลางของทุกส่วนโค้งบนเลนส์ กำลังหักเห ความหนาที่ศูนย์กลางหรือขอบสี และการสลัก
สัญญลักษณ์บนเลนส์สัมผัส
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นพ.คำนูณ อธิภาส (จักษุแพทย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น